แนวรับและแนวต้าน ที่นักลงทุนทองคำต้องรู้จัก

20170926_1

การลงทุนทองคำนั้นมีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการออมทอง การซื้อขายทองคำแท่ง หรือการเทรดทอง

ซึ่งการจะเทรดทองหรือซื้อขายสัญญาณทองคำนั้นจำเป็นที่จะต้องดู แนวรับ แนวต้าน และแนวโน้มของกราฟให้เป็น เพราะเป็นส่วนสำคัญในการดูจังหวะเข้าส่งคำสั่งในการซื้อขายสัญญาณทองคำ งั้นมาเริ่มรู้จักแนวรับแนวต้านกันเลย ว่ามันคืออะไรและมีวิธีการดูอย่างไร

แนวรับ(Support) คือ จุดที่เป็นจุดกลับตัวของกราฟ แล้วราคาได้ลงมาทดสอบอีกครั้ง เราจะใช้จุดนั้นเป็นแนวรับ ถ้าราคาลงมาทดสอบจุดนั้นแล้วไม่สามารถผ่านลงไปได้ แนวรับนั้นจะกลายเป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง(Strong Support)โดยราคาจะลงมาทดสอบอย่างน้อย 2 ครั้ง(Double Bottom)หรือ 3 ครั้ง(Triple Bottom)ถ้าราคาไม่สามารถผ่านแนวรับเหล่านี้ได้ มันก็ จะกลับตัวขึ้นไปอีกครั้ง

แนวต้าน(Resistance) คือ จุดที่เป็นจุดกลับตัวของกราฟแล้วราคากลับขึ้นไปทดสอบอีกครั้ง ถ้าราคาทดสอบจุดที่เป็นแนวต้านแล้วไม่สามารถผ่านจุดนั้นได้จะกลายเป็น แนวต้านที่แข็งแกร่ง (Strong Resistance)โดยที่ราคาจะไปทดสอบ2 ครั้ง(Double Top)หรือ 3 ครั้ง(Triple Top)

แนวโน้ม หรือ Trend คือ ลักษณะการเคลื่อนไหวของกราฟในช่วงระยะเวลาหนึ่งที่เราต้องการจะดู  โดยรูปแบบการเคลื่อนไหวของกลาฟนั้นมีด้วยกัน 3 รูปแบบ นั้นก็คือ

**แนวโน้มขาขึ้น(Uptrend)

– ราคาทองคำที่จุดต่ำใหม่จะสูงกว่าจุดต่ำเก่าเสมอ

– ราคาทองคำที่สูงใหม่จะสูงกว่าจุดสูงเก่าเสมอ

– ราคาทองเคลื่อนไหวเป็นแนวลาดขึ้น หรือแปลความได้ว่าราคาทองคำอยู่ในช่วงขาขึ้น

**แนวโน้มขาลง(Downtrend)
– ราคาทองคำที่จุดต่ำใหม่จะต่ำกว่าจุดต่ำเก่าเสมอ

– ราคาทองคำที่สูงใหม่จะต่ำกว่าจุดสูงเก่าเสมอ

– ราคาสินทรัพย์เคลื่อนไหวเป็นแนวลาดลง หรือแปลความได้ว่าราคาทองคำอยู่ในช่วงขาลง

**แนวโน้มที่เคลื่อนตัวไปทางด้านข้าง(SIDEWAYS TREND)

– ราคาทองคำเคลื่อนที่อยู่ในช่วงแคบๆ สวิงขึ้นลงหรือราคาทองคำเลื่อนอยู่ในกรอบ

หากท่านใดสนใจจะลงทุนทองคำเราขอแนะนำ บริษัท จีแคป จำกัด ได้เปิดให้บริการมากว่า 60 ปี มีผู้เชียวชาญด้านการลงทุนทองคำคอยให้คำปรึกษา ทางบริษัทมีบริการซื้อขายทองคำแท่ง ซื้อขายทองคำแท่งแบบออนไลน์ การออมทอง เทรดทอง นอกจากนั้นยังมีบทวิเคราะห์ราคาทองคำ ในแต่ละวันคอยให้อ่านประกอบการตัดสินใจซื้อขาย สามารถเข้าดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://gcap.co.th/gcapgold/product.php

ซื้อขายทองคำออนไลน์ สิ่งจำเป็นที่นักลงทุนจำเป็นต้องรู้ให้ทัน

e0b88be0b8b7e0b989e0b8ade0b882e0b8b2e0b8a2e0b897e0b8ade0b887e0b884e0b8b3e0b981e0b897e0b988e0b887e0b8ade0b8ade0b899e0b984e0b8a5e0b899e

เนื่องด้วยในปัจจุบันนั้นเรามีการลงทุนทองคำเพื่อเก็งกำไรที่หลากหลายรุปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายทองคำแท่งจริงๆผ่านร้านทอง การซื้อขายหน่วยลงทุนผ่านพวกกองทุนทองคำทั้งหลาย การซื้อขายสัญญาทองคำล่วงหน้าหรือที่เขาเรียกกันว่าโกลด์ฟิวเจอร์ และการซื้อขายทองคำออนไลน์ ซึ่งใน 3 รูปแบบแรกมีการพูดถึงในสื่ออย่างมากมาย เชื่อว่าหลายท่านคงรู้จักกันบ้างแล้ว วึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงการซื้อขายทองคำออนไลน์กัน

ในปัจจุบันมีร้านทองหลายร้านมากที่หันเข้ามาทำธุรกิจทองออนไลน์ และยังมีอีกหลายร้านที่กำลังจะเข้ามา นอกจากพวกร้านทองแล้วยังมีบรัษัทที่เข้ามาอยู่ในธุรกิจซื้อขายทองออนไลน์ ซึ่งบางบริษัทนั้นเปิดให้ซื้อขายทองคำเป็นราคาดอลลาร์เลย

การซื้อขายทองคำออนไลน์ตามกฏที่ถูกต้อง คือต้องมีการจ่ายเงินกันเต็มๆตามจำนวนจริง และผู้ขายต้องมีทองคำแท่งพร้อมส่งมอมให้ โดยเพีนงแค่สามารถซื้อขายกันผ่านอินเตอร์เน็ตเท่านั้น เหมือนสินค้าออนไลน์ทั่วๆไป

ซึ่งการจะซื้อขายทองคำออนไลน์นั้นก่อนจะเข้าลงทุนควรศึกษาให้ดีเสียก่อน สอบถามจากผู้ที่อยู่ในธุรกิจนี้มานานจะช่วยในการคัดกรองบริษัทที่เราจะไปร่วมลงทุนด้วยได้ หรือทำการเช็คทุนจนทะเบียนที่ชำระแล้วของบริษัทนั้นๆ เช็คว่าเจ้าของเป็นใคร อยู่ในธุรกิจทองคำมานานมากน้อยแค่ไหน เป็นสมาชิกของตลาดอนุพันธ์อย่างถูกต้องหรือไม่ ทองคำออนไลน์นั้นยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกเยอะมากที่นักลงทุนจำเป็นที่จะต้องศึกษา เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของกลุ่ม 18 มงกุฏ ทุกการลงทุนนั้นมีความเสี่ยงเพราะฉนั้นจะลงทุนอะไรควรซึกษาให้ดีเสียก่อน

หากท่านใดสนใจที่จะลงทุนในการซื้อขายทองคำแท่งออนไลน์นั้น ขอแนะนำ บริษัท จีแคป จำกัด เปิดให้บริการในธุรกิจทองคำมายาวนานกว่า 60 ปี มีความน่าเชื่อถือสูง ที่สำคัญมีผู้เชียวชาญในการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการลงทุนทองคำที่หลากหลายรูปแบบ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://gcap.co.th/gcapgold/product_tradeonline.php

ลงทุนบิทคอยกับลงทุนทองคำ อะไรน่าสนใจมากกว่ากัน

ลงทุนบิทคอยกับลงทุนทองคำ

ลงทุนบิทคอยกับลงทุนทองคำ

เนื่องจากปัจจุบันราคาบิทคอยนั้นสูงขึ้นมาจนเทียบเท่ากับราคาทองคำในระยะเวลาอันสั้น จึงเกิดคำถามกับหลายๆคนว่าเราควรจะลงทุนในทองคำหรือลงทุนบิทคอยดีกว่ากันนะ ซึ่งก็มีการถกเถียงกันอย่างหลากหลายว่าบิทคอยจะสามารถที่จะเข้ามาแทนที่ของทองคำได้ เพราะบิทคอยนั้นใหม่และดูน่าสนใจและด้วยความที่เราอยู่ในยุคดิจิตอล แต่ด้วยทองคำก็มีประวัติและมูลค่ากันมาอย่างยาวนานและเป็นสิ่งที่ทดแทนความมั่นคั่ง จึงยังเป็นที่ถกเถียงกันในปัจจุบันว่าลงทุนในสิ่งไหนจะดีกว่ากัน

ข้อได้เปรียบข้อหนึ่งของการลงทุนในบิทคอยคือ จำนวนของบิทคอยนั้นมีอยู่จำนวนจำกัดมี 21 ล้านบิทคอยเท่านั้น ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์หลายคน  มองว่ามูลค่าของบิทคอยจะมีประโยชน์ต่อผู้คนในอนาคต และผู้คนจะให้ความสำคัญค่อยเพิ่มขึ้นเมื่อตลาดซื้อขายทั่วไปนั้นเริ่มขยับกลายเป็นตลาดดิจิตัล

ข้อได้เปรียบของลงทุนทองคำที่มีมากกว่าบิทคอยนั้นก็คือ ความน่าเชื่อถือและความวางใจ ซึ่งตัวทองคำนั้นมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและเป็นสินทรพย์ที่มีมูลค่าที่ผู้คนทั่วโลกต่างสะสมและลงทุนกันมาอย่างยาวนาน

แต่ทั้งนี้ก็ไม่สามารถตอบได้หรอกว่าลงทุนในสิ่งไหนดีกว่ากัน ซึ่งถ้าหากอนาคตการซื้อขายผ่านตลาดดิจิตัลนั้นเปิดกว้างขึ้นบิทคอยก็อาจจะมีสิทธิที่จะเข้ามาทดแทนในทองคำได้ แต่หากไม่เป็นอย่างที่ว่าทองคำก็จะยังเป็นสิ่งที่นักลงทุนทั่วโลกสนใจมากกว่าอยู่ดี แต่ในปัจจุบันนั้นทั้งสองอย่างสามารถที่จะลงทุนไปร่วมกันได้ ในแง่ของการสร้างพอร์ทหุ้นที่ดีนั้น เราจะต้องกระจายความเสี่ยง เราจะต้องมองหาสินทรัพย์ที่มีความแตกต่างกัน และเวลาราคาร่วงมันก็จะต้องไม่ร่วงพร้อมกัน

หากท่านใดสนใจที่จะลงทุนทองคำ ไม่ว่าจะเป็น การเทรดทอง ลงทุนทองคำแท่ง หรือโครงการออมทอง ก็สามารถที่จะปรึกษากับผู้เชียวชาญได้ที่ บริษัท จีแคป จำกัด ทางจีแคปมีผู้เขียวชาญโดยเฉพาะที่ให้บริการทางด้านการปรึกษา สามารถอ่านข้อมูลการลงทุนทองคำเพิ่มเติมได้ที่  http://www.gcap.co.th/gcapgold/product.php

เงินบาทกับราคาทองคำ

เงินบาทกับราคาทองคำ

นักลงทุนทองคำทราบกันไหมว่า ราคาทองคำจะขึ้นหรือลง  หลักๆก็อยู่ที่การเคลื่อนไหวของค่าเงินโดยเฉพาะค่าเงินดอลลาร์  ซึ่งราคาดอลลาร์นั้นจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงกันข้ามกับราคาทองคำ  โดยนักลงทุนที่จะลงทุนในทองคำต้องคอยติดตามผลของการเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ  แต่ก็ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยที่นักลงทุนทองคำหลงลืมนั้นก็คือ ค่าเงินบาทไทยนั้นเอง สมมติถ้าค่าเงินบาทคงที่ ตีราคาทองคำนั้นเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์  จะทำให้ราคาทองคำนั้นเพิ่มขึ้นอีก 15 บาท  หากกลับกันราคาทองคำคงที่แต่ค่าเงินบาทเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับค่าเงินดอลลาร์เปลี่ยนแปลงเพียงแค่ 10 สตางค์ ราคาทองคำนั้นจะเปลี่ยนแปลงไปถึง 60 บาทนั้นเอง อ่านแบบนี้แล้วเห็นไหมครับว่าการลงทุนในทองคำรุปแบบต่างๆไม่ว่าจะทองตำแท่งหรือทองอื่นๆการติดตามค่าเงินบาทถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาเช่นกัน  การติดตามค่าเงินบาทนั้นสามารถติดตามผ่านแนวโน้มเศรษฐกิจของไทยนั้นเอง  นอกจากนี้ยังต้องติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกอีกทางหนึ่ง โดยหากตัวเลขเศรษฐกิจในภูมิภาคที่สำคัญอย่าง สหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่นและจีนมีการฟื้นตัวในช่วงปลายปี การส่งออกที่เพิ่มขึ้นจะเป็นอีกหนึ่งตัวเร่งให้ภาวะเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่า แต่หากการเร่งเบิกงบประมาณไม่สามารถฟื้นฟูการบริโภคและการลงทุน บวกกับความกังวลต่อภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลกยังคงอยู่จนการส่งออกลดลง ค่าเงินบาทก็อาจอ่อนค่าลงอีกครั้ง

สำหรับผู้ที่จะเข้ามาลงทุนในทองคำแท่งนั้น จำเป็นต้องรู้ข้อมูลทางเศรษฐกิจต่างๆที่มีผลต่อราคาทองคำ เพื่อที่จะสามารถเก็งกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงของการขาดทุน หรือสามารถเข้ามาปรึกษากับผู้เขียวขาญในด้านการลงทุนทองคำได้ที่ บริษัท จีแคป จำกัด ทางเรายินดีให้คำปรึกษาไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายทองคำแท่ง การออมทอง หรือการเทรดทอง สามารถเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์เพิ่มเติมก่อนได้ที่  http://www.gcap.co.th/gcapgold/product.php

เงินเฟ้อกับราคาทองคำ

20170419_2

เงินเฟ้อ  คือ ราคาของสินค้าหรือการบริการในช่วงระยะเวลาหนึ่งในระบบเศรษฐกิจมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็จะมีผลทำให้ค่าของเงินที่เราถืออยู่ลดลงไปด้วยเช่นกัน

20170419_3

20170419_4

ตัวเลขชี้วัดเงินเฟ้อ อัตราเงินเฟ้อในประเทศไทยวัดโดยสำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า โดย กระทรวงพาณิชย์ ได้ประกาศอัตราเงินเฟ้อเป็นประจำทุกเดือน โดยวิธีวัดอัตราเงินเฟ้อ จากการคำนวนตัวเลขดรรชนีราคา

1.ผู้บริโภค (CPI) = เกิดจากการสุ่มสินค้าบางตัวมาคำนวณ, ตัวหักลด GDP (GDP deflator)

2.ค่าที่แสดงระดับราคาของ GDP ในช่วงระยะเวลานั้นเปรียบเทียบกับระดับราคาของผลิตภัณฑ์ในปีฐาน

 20170419_5

สาเหตุการเกิดเงินเฟ้อ

1.ต้นทุนในการผลิตสินค้าสูงขึ้น (Cost –Push Inflation) เป็นเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นเนื่องจากต้นทุนการผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น  ทำให้ผู้ผลิตจะต้องเสนอขายสินค้าในราคาที่สูงขึ้น

2.ความต้องการสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้น(Demand-Pull Inflation)  ความต้องการใช้จ่ายสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ในขณะที่สินค้าและบริการไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้ มีความต้องการใช้จ่ายมากกว่าผลผลิตที่มีอยู่ ซึ่งส่งผลทำให้สินค้ามีราคาสูงขึ้น

20170419_6

การควบคุมภาวะเงินเฟ้อ

1.นโยบายการเงิน รัฐบาลและธนาคารกลางส่วนใหญ่ใช้นโยบายการเงินเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ตัวอย่างเช่น ธนาคารกลางสหรัฐสามารถเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ชะลอหรือหยุดการผลิตเงิน เพื่อให้เกิดการลดปริมาณของเงินในระบบ

2.การตรึงอัตราแลกเปลี่ยน หลายๆประเทศทั่วโลกได้ทำการตรึงอัตราแลกเปลี่ยนไว้กับดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งมีประโยชน์ในการจำกัดการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ

3.การควบคุมค่าจ้างและราคาสินค้า การควบคุมค่าจ้างและราคาสินค้าจะถูกมองว่าเป็นเพียงมาตรการชั่วคราวซึ่งสามารถนำมาใช้เฉพาะในกรณีพิเศษ และจะมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อใช้ร่วมกับนโยบายที่ออกแบบมาเพื่อแก้ต้นเหตุของภาวะเงินเฟ้อ

 20170419_7

สรุปเงินเฟ้อ  เงินเฟ้อที่สูงไม่เกิน 5% จะเรียกเงินเฟ้ออย่างอ่อน  หากสูงขึ้นแล้วปรับลดลง จะไม่นับว่าเกิดภาวะเงินเฟ้อซึ่งเงินเฟ้อในระดับอ่อนๆ จะไม่สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ แต่หากเกิดภาวะเงินเฟ้อสูงๆ จะทำให้ค่าของเงินที่เราถืออยู่ด้อยค่าลงไป ทำให้ซื้อของได้น้อยลง ธุรกิจไม่สามารถผลิตหรือลงทุนได้เพราะมีความไม่แน่นอนเรื่องราคาอยู่สูง ซึ่งจะมีผลกระทบทางลบต่อระบบเศรษฐกิจในที่สุด

20170419_8

ทองคำ  เป็นความหมายแห่งความมั่งคั่งเป็นสินทรัพย์ที่ยอมรับของคนทั้งโลก และเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Heaven)  แล้วเวลาที่เศรษฐกิจของประเทศใหญ่ๆอย่างเช่น สหรัฐอเมริกา จีน ยุโรป มีปัญหา ทองคำก็จะเป็นตัวเลือกแรกๆที่ทุกคนจะซื้อเป็นเพื่อเก็งกำไร

20170419_9

ปัจจัยที่มีผลกับทองคำ

  • ระยะยาว ราคาทองคำมีสัดส่วนความสัมพันธ์แบบ 1:1 กับเงินเฟ้อของสหรัฐ
  • ราคาทองคำ ไม่มีความสัมพันธ์โดยตรงกับเงินเฟ้อในส่วนอื่นๆของโลก
  • ความเบี่ยงเบนจากปัจจัยอื่น เช่น การเมือง ความเสี่ยงทางการเงิน ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน อาจจะกินเวลาสั้นๆหรือเป็นปี แต่สุดท้าย ก็จะกลับมาอยู่ที่ความสัมพันธ์หลัก คือเงินเฟ้อสหรัฐเท่านั้น

20170419_10
เงินเฟ้อกับทองคำ
 อัตราเงินเฟ้อเป็นปัจจัยหนึ่งที่เป็นตัวกำหนดราคาทองคำ โดยหากปัจจัยอื่นคงที่ ราคาทองคำจะเพิ่มขึ้นเมื่ออัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นและในยามที่อัตราเงินเฟ้อต่ำ ราคาทองคำก็มีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงด้วยเช่นเดียวกัน  กล่าวคือหากเงินเฟ้อสหรัฐขยับขึ้น 1% ราคาทองคำจะขยับตามขึ้นไป 1% ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังจะมีความต้องการถือครองทองคำมากขึ้นในช่วงที่มีภาวะสงครามเกิดขึ้น เพราะทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราเงินเฟ้อที่มีประสิทธิภาพ โดยเราจะสังเกตทิศทางอัตราเงินเฟ้อได้จากทิศทางราคาพลังงาน (น้ำมัน) และราคาอาหารต่างๆ เพราะเป็นปัจจัยที่มีผลต่อภาวะเงินเฟ้อโดยตรง

หากท่านใดสนใจจะลงทุนทองทองคำ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อทองคำแท่ง การเทรดทอง การออมทอง สามารถปรึกษาได้ที่ บริษัท จีแคป จำกัด เรามีผู้เชียวชาญในด้านทองคำพร้อมให้คำปรึกษา หรือท่านสามารถเข้ามาดูในเว็บไซต์ของเราในการลงทุนทองคำได้ที่ http://www.gcap.co.th/gcapgold/product.php

 

ความแต่กต่างระหว่าง นักลงทุน VS นักพนัน

การลงทุนมีความเสี่ยงศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนลงทุน
นักลงทุน VS นักพนัน

อาจจะมีหลายๆคนที่ชอบความเสี่ยงแล้วอยากที่จะมีเงินอย่างรวดเร็ว ซึ่งการทำงานประจำนั้นไม่สามารถตอบโจทย์ข้อนี้ได้ หรือการค้าขายอาจจะต้องใช้ระยะเวลานานกว่าจะคืนทุน จึงมีหลายคนแปลผันตัวเองมาเป็นนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในด้านต่างๆ ซึ่งก็น่าจะมีหลายท่านอาจจะไม่ใช้นักลงทุนที่เต็มตัวซักเท่าไหร่ วันนี้เราจึงมาเสนอหัวข้อ ” นักลงทุน VS นักพนัน ” ลองมาเช็คตัวเองดูกันว่าเป็นแบบไหนกันมากกว่า

นักพนัน

1.จินตนาการ

นักจิตนาการ ด้าการลงทุน
จินตนาการสูง

บอกเลยข้อนี้มือใหม่ที่เริ่มเข้าวงการหลายคนเคยเป็นมาแน่นอน ไอไสตน์เคยกล่าวไว้ว่า “จินตนาการสำคัญกว่าความรู้” ใครที่เคยใช้หลักการนี้น่าจะเคยขาดทุนไปบ้างเรียบร้อยแล้ว นักพนันนั้นจะใช้จิตนาการในการเสี่ยงทายผลลัพธ์ที่จะออกมา ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะใช้การคาดเดามากกว่าการวิเคราะห์

2.ความโลภเข้าครอบงำ

3
ความโลภมันบังตา

อยากที่จะได้-เสียวันละหลายรอบ ไม่รอจนกว่าจะถึงจังหวะที่เหมาะสม

นักลงทุน

1.หาข้อมูล

4
หาข้อมูลก่อนลงทุน

นักลงทุนที่ดีก่อนจะลงทุนอะไรจะหาข้อมูลให้ดีซะก่อนเพื่อประกอบกับการตัดสินใจ มากกว่าการใช้ดวงหรือจินตนาการ

2.ลดความเสี่ยง

5
กำจัดความเสี่ยง

การลดความเสี่ยงการลงทุนเป็นปัจจัยสำคัญเพื่อให้ได้ผลกำไร  การหาข้อมูลในอดีตที่ผ่านการคำนวณด้วยหลักทางสถิติมาแล้ว บทวิเคราะห์เศรษฐกิจ หรือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยทางด้าน Demand และ Supply นำข้อมูลทั้งหมดมาประมวลแล้ว นำมาพิจารณาว่า ในอนาคตราคาจะไปในทิศทางใด ข้อมูลที่นำมาใช้ในการตัดสินใจนี้เองที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น

3.ระยะเวลา

6
รู้จักรอ

 

นักลงทุนจะรอระยะเวลาที่เหมาะสมในการเข้าซื้อขาย บางครั้งอาจจะต้องรอคายนานหน่อยก็เป็นได้

สุดท้ายนี้การตัดสินใจลงทุนแต่ละครั้งอาจจะต้องใช้หลักการวิเคราะห์ มากกว่าการคาดเดาและอาจจะต้องใช้ระยะเวลารอคอยและอดทน เพื่อผลกำไรในอนาคตครับ

หากต้องการลงทุนทองคำสามารถปรึกษาทางเราได้ ทางบริษัท จีแคป จำกัด มีความเชี่ยวชาญในการลงทุน และมีความมั่นคงเปิดมานานกว่า 60 ปี เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ บริษัท จีแคป จำกัด  

ออมทองดีอย่างไร

1

ปัจจุบันมีบริษัทน้อยใหญ่มากมายที่เปิดให้เราสามารถซื้อทองคำเก็บได้โดยที่เรียกว่าโครงการออมทอง แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่เคยถามเข้ามาว่า ออมทองนั้นดีอย่างไรมีความเสี่ยงไหม มีกำไรแน่นอนรึป่าว แล้วออมทองกับฝากเงินธนาคารอันไหนดีกว่า แล้วราคาทองคำขึ้นๆลงๆแบบนี้จะขาดทุนไหม ผมต้องขอตอบทุกคนก็เลยว่า ทุกการลงทุนมีความเสี่ยงหมดแหละครับ อยู่ที่ว่าเสี่ยงมากเสี่ยงน้อย แต่วันนี้จะพาไปดูข้อดีจากการออมทองก่อนละกันครับ

1.การป้องกันอัตราเงินเฟ้อ

ทองคำนั้นเป็นสินทรัพย์ที่ค่อนข้างป้องกันอัตราเงินเฟ้าได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เนื่องจากปัจจุบันทองคำนั้นมีค่อนข้างจำกัด แต่หลายๆอุตสาหกรรมนั้นยังต้องใช้ทองคำ ซึ่งหลายท่านคาดการณืว่าอนาคตถึงสินค้าหรือค่าดำรงชีพจะแพงขึ้น ราคาทองคำก็จะขึ้นตามไปแน่นอน

2.มีเงินน้อยก็สามารถออมทองคำได้

การออมทองไม่จำเป็นต้องมีเงินมากมายเป็นหลักหมื่น ซึ่งทาง Gcap เองนั้นก็มีบริการออมทองซึ่งเริ่มต้นเพียงแค่ 1,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น

3.เป็นการกระจายความเสี่ยง

ซึ่งการออมทองสามารถป้องกันอัตราเงินเฟ้อได้ และมีสิทธิที่จะได้กำไรจากการออมทองอีกด้วย เช่น ในปีที่เราออมทองอยู่บาทละ 18,000เราออมไปซัก 5 ปี เกิดทองขึ้น เป็นบาทละ 25,000 เราก็จะได้กำไรจากการออมปีแรกๆ และเงินที่ได้กำไรจากการออมทองไม่ถูกเก็บภาษี

4.สามารถซื้อขายได้ง่าย

หากเราอยากหยุดที่จะออมทองหรือต้องการถอนทองออกมาเราสามารถเอาทองออกมาตามจำนวนที่เราออมไว้หรืออยากได้เป็นเงินสดก็แค่ขายคืนกลับไปตามราคาที่สมาคมการค้าทองคำประกาศ ณ เวลานั้นๆ

5.ไม่ต้องห่วงเรื่องเก็บรักษา

การเก็บรักษานั้นบริษัทที่เราออมทองไว้ จะเป็นคนเก็บรักษาทองคำให้ ซึ่งทำให้เราไม่จำเป็นต้องเช่าหรือซื้อตู้เซฟมาเพื่อเก็บรักษาทองคำให้เปลืองเงิน

ทางเรา Gcap เป็นบริษัทที่ทำการซื้อขายทองคำมาเป็นเวลายาวนานกว่า 60 ปี มีผู้เชี่ยวชาญที่จะคอยให้คำแนะนำท่านในการออมทองและการลงทุนทองคำ หากท่านสนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที www.gcap.co.th

5 ปัจจัยมีผลต่อราคาทองคำ

ราคาทองคำ

วันนี้เราจะพามาดูว่าปัจจัยใดบ้างที่ทำให้ราคาทองคำในตลาดโลกนั้นผันผวนเพื่อจะให้เป็นแนวทางในการลงทุนแต่ละครั้งในการเกร็งกำไร

จากที่เราได้หาข้อมูลมานั้น มีด้วยกันอยู่ 5 อย่างที่ทำให้ราคาทองคำผันผวน

ค่าเงินเหรียญสหรัฐ
ค่าเงินเหรียญของประเทศสหรัฐ

1.ค่าเงินเหรียญของประเทศสหรัฐ

โดยปกติทั่วไปแล้วราคาทองคำจะเพิ่มขึ้นก็ต่อเมื่อค่าเงินของสหรัฐอ่อนตัวลง เพราะในการซื้อขายของทองคำนั้นเป็นการป้องกันความเสี่ยงมูลค่าทางการเงินของสหรัฐ เนื่องจากค่าเงินเหรียญของสหรัฐนั้นได้เป็นสกุลเงินหลักที่ใช้ในการแลกเปลี่ยน

ค่าเงินประเทศต่างๆทั่วโลก หากเกิดเหตุให้ค่าเงินของสหรัฐอ่อนตัวลงธนาคารกลางประเทศอื่นๆก็จะกระจายความเสี่ยง โดยทำการแบ่งการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ เช่น เงินสกุลอื่นๆ ทองคำ ทำให้ราคาทองคำขึ้นเมื่อค่าเงินดอลล่าห์สหรัฐตก

2-%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%a7%e0%b8%a5%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%ad%e0%b8%b1%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%87

2.ความกังวลและปัญหาเงินเฟ้อ

โดยปกติแล้วถ้าอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นราคาทองคำก็จะเพิ่มขึ้น เพราะทองคำนั้นเป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันความเสี่ยงเรื่องอัตราเงินเฟ้อค่อนข้างดี โดยสังเกตุอัตราเงินเฟ้อได้จากราคาน้ำมันและราคาอาหาร เพราะสองสิ่งนี้เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอัตราเงินเฟ้อ

3-%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%9a%e0%b8%9a%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%80%e0%b8%87%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b8%b0%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%b5%e0%b9%88

3.ระบบการเงินและความเสี่ยงทางการเมือง

ราคาทองคำมักจะปรับตัวขึ้นในช่วงที่มีความเครียดทางการเมือง และความไม่แน่นอนในระบบเงินโลก เพราะช่วงนั้นการขายสินทรัพย์อื่นจะเพิ่มมากขึ้นและทำการซื้อทองคำที่จะป้องกันคว่ามเสี่ยงได้มากกว่า

4-%e0%b8%ad%e0%b8%b8%e0%b8%9b%e0%b8%aa%e0%b8%87%e0%b8%84%e0%b9%8c%e0%b8%ad%e0%b8%b8%e0%b8%9b%e0%b8%97%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b9%83%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b8%a5%e0%b8%b2%e0%b8%94

4.อุปสงค์อุปทานในตลาด

ก็คงเป็นเรื่องปกติถ้าราคาทองคำจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีความต้องการซื้อมากขึ้นหรือที่ชอบพูดกันว่า Demand มากว่า Supply ซึ่งส่วนใหญ่ความต้องการในการใช้ทองคำนั้นมาจาก 3 กลุ่มหลักๆนั้นก็คือ ภาคอุตสาหกรรมการผลิตและการแพทย์ ภาคเครื่องประดับ และภาคการลงทุน

5-%e0%b8%84%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%87%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b8%ad%e0%b8%a5%e0%b8%a5%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%aa%e0%b8%ab%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%90%e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b9%88

5.ค่าเงินดอลล่าสหรัฐเมื่อเทียบกับค่าเงินบาท

เนื่องจากประเทศไทยของเรานั้นเองไม่สามารถที่จะผลิตทองคำเองได้จึงต้องนำเข้าจากต่างประเทศเป็นหลัก ดังนั้นอัตตราการแลกเปลี่ยนเงินตราจึงมีผลต่อราคาทองคำประเทศไทย

สำหรับท่านใดที่สนใจที่จะลงทุนทองคำ หรือต้องการที่จะซื้อ-ขายทองคำ เราขอแนะนำที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับการลงทุนทองคำอย่าง บริษัท Gcap Co.,Ltd ซึ่งได้ทำการซื้อขายทองคำมานานกว่า 60 ปี ทั้งนี้ยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนทองคำคอยให้คำแนะนะ ให้ราคาที่ได้มาตรฐาน สำหรับท่านใดที่สนใจเรื่องการลงทุนทองคำแท่ง สามารถเข้าไปดูบริการต่างๆของจีแคปได้ที่  http://gcap.co.th/gcapgold/product.php

ทองคำแท่ง

gold1

เพราะทองคำแท่งก็เปรียบเสมือนหุ้นตัวหนึ่ง ราคามีขึ้นมีลง แต่ก็ยังมีคุณค่ามีราคา เราจึงเห็นได้ว่าปัจจุบันผู้คนจึงเริ่มให้ความสนใจในตัวทองคำแท่งกันเป็นอย่างมาก เพราะทองคำแท่งยังคงเป็นสินทรัพย์ที่สามารถนำไปซื้อขายได้ตลอดเวลา สำหรับคนที่ชื่นชอบกับการทำกำไรของทองคำแท่ง คงต้องมีความตื่นตัวที่จะคอยเช็คราคาทองกันอยู่สม่ำเสมอ เพื่อได้จะทราบแนวโน้มของราคาทองอย่างแน่นอน และยังสามารถประเมินสภาวะการซื้อขายของตนได้อีกด้วย

นอกจากนี้ควรหมั่นติดตามข่าวสารรอบโลกให้มาก ๆ ศึกษาอย่างสม่ำเสมอ ด้วยข่าวสารต่าง ๆ รอบโลกย่อมมีผลกระทบต่อราคาทอง อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ต้องการลงทุนในทองคำแท่ง แต่ยังไม่รู้เรื่องราวอะไรมากมายที่เกี่ยวกับการซื้อขายทองคำแท่งมาก่อน ก็สามารถหาความรู้ไปก่อน ศึกษาด้านการเงินและการลงทุนในตัวของทองคำแท่งในทุกด้าน ศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำทั้งต่างประเทศและในประเทศ ทั้งนี้ก็เพื่อเพิ่มมูลค่าการลงทุนให้กับการเงินของตนเอง เพิ่มช่องทางการลงทุนอย่างมีความรู้ในสิ่งที่ลงทุน

อาจกล่าวได้ว่าขึ้นชื่อว่าทอง ยังไงก็มีคุณค่าเสมอ ถ้าคิดว่าพร้อมต่อการลงทุน อย่าลังเลหรือรีรอที่จะลงทุน สิ่งที่ควรทำคือการเตรียมความรู้ในการลงทุนให้พร้อม เมื่อพร้อมแล้ว ลงมือลงทุนตามที่ได้ศึกษาไว้ อาจซื้อทองคำเก็บไว้ออมเพื่อลงทุน ซื้อเก็บไว้ออมไปเรื่อย ๆ เมื่อราคาของทองคำสูงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อนั้นก็จะเห็นถึงผลลัพธ์ของการลงทุนที่จะให้ผลตอบแทนต่อผู้ลงทุนได้อย่างงดงาม

สำหรับท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับการลงทุนทองคำแท่ง เราขอแนะนำบริษัทจีแคป ซึ่งที่นี้มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการลงทุนทองคำแท่ง และมีประสบการด้านการซื้อขายทองคำแท่งมาเป็นเวลายาวนานกว่า 60 ปี เพราะฉะนั้นคุณไว้ใจได้เลยว่า ที่นี่มีความมั่นคง และซื่อสัตย์กับลูกค้าทุกท่านอย่างแน่นอน สำหรับท่านที่สนใจบริการด้านการลงทุนทองคำต่างๆ ของทางจีแคป สามารถเข้าไปดูได้ที่   http://www.gcap.co.th/gcapgold/product.php