แนวรับและแนวต้าน ที่นักลงทุนทองคำต้องรู้จัก

20170926_1

การลงทุนทองคำนั้นมีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการออมทอง การซื้อขายทองคำแท่ง หรือการเทรดทอง

ซึ่งการจะเทรดทองหรือซื้อขายสัญญาณทองคำนั้นจำเป็นที่จะต้องดู แนวรับ แนวต้าน และแนวโน้มของกราฟให้เป็น เพราะเป็นส่วนสำคัญในการดูจังหวะเข้าส่งคำสั่งในการซื้อขายสัญญาณทองคำ งั้นมาเริ่มรู้จักแนวรับแนวต้านกันเลย ว่ามันคืออะไรและมีวิธีการดูอย่างไร

แนวรับ(Support) คือ จุดที่เป็นจุดกลับตัวของกราฟ แล้วราคาได้ลงมาทดสอบอีกครั้ง เราจะใช้จุดนั้นเป็นแนวรับ ถ้าราคาลงมาทดสอบจุดนั้นแล้วไม่สามารถผ่านลงไปได้ แนวรับนั้นจะกลายเป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง(Strong Support)โดยราคาจะลงมาทดสอบอย่างน้อย 2 ครั้ง(Double Bottom)หรือ 3 ครั้ง(Triple Bottom)ถ้าราคาไม่สามารถผ่านแนวรับเหล่านี้ได้ มันก็ จะกลับตัวขึ้นไปอีกครั้ง

แนวต้าน(Resistance) คือ จุดที่เป็นจุดกลับตัวของกราฟแล้วราคากลับขึ้นไปทดสอบอีกครั้ง ถ้าราคาทดสอบจุดที่เป็นแนวต้านแล้วไม่สามารถผ่านจุดนั้นได้จะกลายเป็น แนวต้านที่แข็งแกร่ง (Strong Resistance)โดยที่ราคาจะไปทดสอบ2 ครั้ง(Double Top)หรือ 3 ครั้ง(Triple Top)

แนวโน้ม หรือ Trend คือ ลักษณะการเคลื่อนไหวของกราฟในช่วงระยะเวลาหนึ่งที่เราต้องการจะดู  โดยรูปแบบการเคลื่อนไหวของกลาฟนั้นมีด้วยกัน 3 รูปแบบ นั้นก็คือ

**แนวโน้มขาขึ้น(Uptrend)

– ราคาทองคำที่จุดต่ำใหม่จะสูงกว่าจุดต่ำเก่าเสมอ

– ราคาทองคำที่สูงใหม่จะสูงกว่าจุดสูงเก่าเสมอ

– ราคาทองเคลื่อนไหวเป็นแนวลาดขึ้น หรือแปลความได้ว่าราคาทองคำอยู่ในช่วงขาขึ้น

**แนวโน้มขาลง(Downtrend)
– ราคาทองคำที่จุดต่ำใหม่จะต่ำกว่าจุดต่ำเก่าเสมอ

– ราคาทองคำที่สูงใหม่จะต่ำกว่าจุดสูงเก่าเสมอ

– ราคาสินทรัพย์เคลื่อนไหวเป็นแนวลาดลง หรือแปลความได้ว่าราคาทองคำอยู่ในช่วงขาลง

**แนวโน้มที่เคลื่อนตัวไปทางด้านข้าง(SIDEWAYS TREND)

– ราคาทองคำเคลื่อนที่อยู่ในช่วงแคบๆ สวิงขึ้นลงหรือราคาทองคำเลื่อนอยู่ในกรอบ

หากท่านใดสนใจจะลงทุนทองคำเราขอแนะนำ บริษัท จีแคป จำกัด ได้เปิดให้บริการมากว่า 60 ปี มีผู้เชียวชาญด้านการลงทุนทองคำคอยให้คำปรึกษา ทางบริษัทมีบริการซื้อขายทองคำแท่ง ซื้อขายทองคำแท่งแบบออนไลน์ การออมทอง เทรดทอง นอกจากนั้นยังมีบทวิเคราะห์ราคาทองคำ ในแต่ละวันคอยให้อ่านประกอบการตัดสินใจซื้อขาย สามารถเข้าดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://gcap.co.th/gcapgold/product.php

เงินบาทกับราคาทองคำ

เงินบาทกับราคาทองคำ

นักลงทุนทองคำทราบกันไหมว่า ราคาทองคำจะขึ้นหรือลง  หลักๆก็อยู่ที่การเคลื่อนไหวของค่าเงินโดยเฉพาะค่าเงินดอลลาร์  ซึ่งราคาดอลลาร์นั้นจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงกันข้ามกับราคาทองคำ  โดยนักลงทุนที่จะลงทุนในทองคำต้องคอยติดตามผลของการเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ  แต่ก็ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยที่นักลงทุนทองคำหลงลืมนั้นก็คือ ค่าเงินบาทไทยนั้นเอง สมมติถ้าค่าเงินบาทคงที่ ตีราคาทองคำนั้นเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์  จะทำให้ราคาทองคำนั้นเพิ่มขึ้นอีก 15 บาท  หากกลับกันราคาทองคำคงที่แต่ค่าเงินบาทเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับค่าเงินดอลลาร์เปลี่ยนแปลงเพียงแค่ 10 สตางค์ ราคาทองคำนั้นจะเปลี่ยนแปลงไปถึง 60 บาทนั้นเอง อ่านแบบนี้แล้วเห็นไหมครับว่าการลงทุนในทองคำรุปแบบต่างๆไม่ว่าจะทองตำแท่งหรือทองอื่นๆการติดตามค่าเงินบาทถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาเช่นกัน  การติดตามค่าเงินบาทนั้นสามารถติดตามผ่านแนวโน้มเศรษฐกิจของไทยนั้นเอง  นอกจากนี้ยังต้องติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกอีกทางหนึ่ง โดยหากตัวเลขเศรษฐกิจในภูมิภาคที่สำคัญอย่าง สหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่นและจีนมีการฟื้นตัวในช่วงปลายปี การส่งออกที่เพิ่มขึ้นจะเป็นอีกหนึ่งตัวเร่งให้ภาวะเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่า แต่หากการเร่งเบิกงบประมาณไม่สามารถฟื้นฟูการบริโภคและการลงทุน บวกกับความกังวลต่อภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลกยังคงอยู่จนการส่งออกลดลง ค่าเงินบาทก็อาจอ่อนค่าลงอีกครั้ง

สำหรับผู้ที่จะเข้ามาลงทุนในทองคำแท่งนั้น จำเป็นต้องรู้ข้อมูลทางเศรษฐกิจต่างๆที่มีผลต่อราคาทองคำ เพื่อที่จะสามารถเก็งกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงของการขาดทุน หรือสามารถเข้ามาปรึกษากับผู้เขียวขาญในด้านการลงทุนทองคำได้ที่ บริษัท จีแคป จำกัด ทางเรายินดีให้คำปรึกษาไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายทองคำแท่ง การออมทอง หรือการเทรดทอง สามารถเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์เพิ่มเติมก่อนได้ที่  http://www.gcap.co.th/gcapgold/product.php

เงินเฟ้อกับราคาทองคำ

20170419_2

เงินเฟ้อ  คือ ราคาของสินค้าหรือการบริการในช่วงระยะเวลาหนึ่งในระบบเศรษฐกิจมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็จะมีผลทำให้ค่าของเงินที่เราถืออยู่ลดลงไปด้วยเช่นกัน

20170419_3

20170419_4

ตัวเลขชี้วัดเงินเฟ้อ อัตราเงินเฟ้อในประเทศไทยวัดโดยสำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า โดย กระทรวงพาณิชย์ ได้ประกาศอัตราเงินเฟ้อเป็นประจำทุกเดือน โดยวิธีวัดอัตราเงินเฟ้อ จากการคำนวนตัวเลขดรรชนีราคา

1.ผู้บริโภค (CPI) = เกิดจากการสุ่มสินค้าบางตัวมาคำนวณ, ตัวหักลด GDP (GDP deflator)

2.ค่าที่แสดงระดับราคาของ GDP ในช่วงระยะเวลานั้นเปรียบเทียบกับระดับราคาของผลิตภัณฑ์ในปีฐาน

 20170419_5

สาเหตุการเกิดเงินเฟ้อ

1.ต้นทุนในการผลิตสินค้าสูงขึ้น (Cost –Push Inflation) เป็นเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นเนื่องจากต้นทุนการผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น  ทำให้ผู้ผลิตจะต้องเสนอขายสินค้าในราคาที่สูงขึ้น

2.ความต้องการสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้น(Demand-Pull Inflation)  ความต้องการใช้จ่ายสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ในขณะที่สินค้าและบริการไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้ มีความต้องการใช้จ่ายมากกว่าผลผลิตที่มีอยู่ ซึ่งส่งผลทำให้สินค้ามีราคาสูงขึ้น

20170419_6

การควบคุมภาวะเงินเฟ้อ

1.นโยบายการเงิน รัฐบาลและธนาคารกลางส่วนใหญ่ใช้นโยบายการเงินเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ตัวอย่างเช่น ธนาคารกลางสหรัฐสามารถเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ชะลอหรือหยุดการผลิตเงิน เพื่อให้เกิดการลดปริมาณของเงินในระบบ

2.การตรึงอัตราแลกเปลี่ยน หลายๆประเทศทั่วโลกได้ทำการตรึงอัตราแลกเปลี่ยนไว้กับดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งมีประโยชน์ในการจำกัดการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ

3.การควบคุมค่าจ้างและราคาสินค้า การควบคุมค่าจ้างและราคาสินค้าจะถูกมองว่าเป็นเพียงมาตรการชั่วคราวซึ่งสามารถนำมาใช้เฉพาะในกรณีพิเศษ และจะมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อใช้ร่วมกับนโยบายที่ออกแบบมาเพื่อแก้ต้นเหตุของภาวะเงินเฟ้อ

 20170419_7

สรุปเงินเฟ้อ  เงินเฟ้อที่สูงไม่เกิน 5% จะเรียกเงินเฟ้ออย่างอ่อน  หากสูงขึ้นแล้วปรับลดลง จะไม่นับว่าเกิดภาวะเงินเฟ้อซึ่งเงินเฟ้อในระดับอ่อนๆ จะไม่สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ แต่หากเกิดภาวะเงินเฟ้อสูงๆ จะทำให้ค่าของเงินที่เราถืออยู่ด้อยค่าลงไป ทำให้ซื้อของได้น้อยลง ธุรกิจไม่สามารถผลิตหรือลงทุนได้เพราะมีความไม่แน่นอนเรื่องราคาอยู่สูง ซึ่งจะมีผลกระทบทางลบต่อระบบเศรษฐกิจในที่สุด

20170419_8

ทองคำ  เป็นความหมายแห่งความมั่งคั่งเป็นสินทรัพย์ที่ยอมรับของคนทั้งโลก และเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Heaven)  แล้วเวลาที่เศรษฐกิจของประเทศใหญ่ๆอย่างเช่น สหรัฐอเมริกา จีน ยุโรป มีปัญหา ทองคำก็จะเป็นตัวเลือกแรกๆที่ทุกคนจะซื้อเป็นเพื่อเก็งกำไร

20170419_9

ปัจจัยที่มีผลกับทองคำ

  • ระยะยาว ราคาทองคำมีสัดส่วนความสัมพันธ์แบบ 1:1 กับเงินเฟ้อของสหรัฐ
  • ราคาทองคำ ไม่มีความสัมพันธ์โดยตรงกับเงินเฟ้อในส่วนอื่นๆของโลก
  • ความเบี่ยงเบนจากปัจจัยอื่น เช่น การเมือง ความเสี่ยงทางการเงิน ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน อาจจะกินเวลาสั้นๆหรือเป็นปี แต่สุดท้าย ก็จะกลับมาอยู่ที่ความสัมพันธ์หลัก คือเงินเฟ้อสหรัฐเท่านั้น

20170419_10
เงินเฟ้อกับทองคำ
 อัตราเงินเฟ้อเป็นปัจจัยหนึ่งที่เป็นตัวกำหนดราคาทองคำ โดยหากปัจจัยอื่นคงที่ ราคาทองคำจะเพิ่มขึ้นเมื่ออัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นและในยามที่อัตราเงินเฟ้อต่ำ ราคาทองคำก็มีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงด้วยเช่นเดียวกัน  กล่าวคือหากเงินเฟ้อสหรัฐขยับขึ้น 1% ราคาทองคำจะขยับตามขึ้นไป 1% ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังจะมีความต้องการถือครองทองคำมากขึ้นในช่วงที่มีภาวะสงครามเกิดขึ้น เพราะทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราเงินเฟ้อที่มีประสิทธิภาพ โดยเราจะสังเกตทิศทางอัตราเงินเฟ้อได้จากทิศทางราคาพลังงาน (น้ำมัน) และราคาอาหารต่างๆ เพราะเป็นปัจจัยที่มีผลต่อภาวะเงินเฟ้อโดยตรง

หากท่านใดสนใจจะลงทุนทองทองคำ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อทองคำแท่ง การเทรดทอง การออมทอง สามารถปรึกษาได้ที่ บริษัท จีแคป จำกัด เรามีผู้เชียวชาญในด้านทองคำพร้อมให้คำปรึกษา หรือท่านสามารถเข้ามาดูในเว็บไซต์ของเราในการลงทุนทองคำได้ที่ http://www.gcap.co.th/gcapgold/product.php

 

ความแต่กต่างระหว่าง นักลงทุน VS นักพนัน

การลงทุนมีความเสี่ยงศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนลงทุน
นักลงทุน VS นักพนัน

อาจจะมีหลายๆคนที่ชอบความเสี่ยงแล้วอยากที่จะมีเงินอย่างรวดเร็ว ซึ่งการทำงานประจำนั้นไม่สามารถตอบโจทย์ข้อนี้ได้ หรือการค้าขายอาจจะต้องใช้ระยะเวลานานกว่าจะคืนทุน จึงมีหลายคนแปลผันตัวเองมาเป็นนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในด้านต่างๆ ซึ่งก็น่าจะมีหลายท่านอาจจะไม่ใช้นักลงทุนที่เต็มตัวซักเท่าไหร่ วันนี้เราจึงมาเสนอหัวข้อ ” นักลงทุน VS นักพนัน ” ลองมาเช็คตัวเองดูกันว่าเป็นแบบไหนกันมากกว่า

นักพนัน

1.จินตนาการ

นักจิตนาการ ด้าการลงทุน
จินตนาการสูง

บอกเลยข้อนี้มือใหม่ที่เริ่มเข้าวงการหลายคนเคยเป็นมาแน่นอน ไอไสตน์เคยกล่าวไว้ว่า “จินตนาการสำคัญกว่าความรู้” ใครที่เคยใช้หลักการนี้น่าจะเคยขาดทุนไปบ้างเรียบร้อยแล้ว นักพนันนั้นจะใช้จิตนาการในการเสี่ยงทายผลลัพธ์ที่จะออกมา ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะใช้การคาดเดามากกว่าการวิเคราะห์

2.ความโลภเข้าครอบงำ

3
ความโลภมันบังตา

อยากที่จะได้-เสียวันละหลายรอบ ไม่รอจนกว่าจะถึงจังหวะที่เหมาะสม

นักลงทุน

1.หาข้อมูล

4
หาข้อมูลก่อนลงทุน

นักลงทุนที่ดีก่อนจะลงทุนอะไรจะหาข้อมูลให้ดีซะก่อนเพื่อประกอบกับการตัดสินใจ มากกว่าการใช้ดวงหรือจินตนาการ

2.ลดความเสี่ยง

5
กำจัดความเสี่ยง

การลดความเสี่ยงการลงทุนเป็นปัจจัยสำคัญเพื่อให้ได้ผลกำไร  การหาข้อมูลในอดีตที่ผ่านการคำนวณด้วยหลักทางสถิติมาแล้ว บทวิเคราะห์เศรษฐกิจ หรือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยทางด้าน Demand และ Supply นำข้อมูลทั้งหมดมาประมวลแล้ว นำมาพิจารณาว่า ในอนาคตราคาจะไปในทิศทางใด ข้อมูลที่นำมาใช้ในการตัดสินใจนี้เองที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น

3.ระยะเวลา

6
รู้จักรอ

 

นักลงทุนจะรอระยะเวลาที่เหมาะสมในการเข้าซื้อขาย บางครั้งอาจจะต้องรอคายนานหน่อยก็เป็นได้

สุดท้ายนี้การตัดสินใจลงทุนแต่ละครั้งอาจจะต้องใช้หลักการวิเคราะห์ มากกว่าการคาดเดาและอาจจะต้องใช้ระยะเวลารอคอยและอดทน เพื่อผลกำไรในอนาคตครับ

หากต้องการลงทุนทองคำสามารถปรึกษาทางเราได้ ทางบริษัท จีแคป จำกัด มีความเชี่ยวชาญในการลงทุน และมีความมั่นคงเปิดมานานกว่า 60 ปี เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ บริษัท จีแคป จำกัด  

ออมทองดีอย่างไร

1

ปัจจุบันมีบริษัทน้อยใหญ่มากมายที่เปิดให้เราสามารถซื้อทองคำเก็บได้โดยที่เรียกว่าโครงการออมทอง แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่เคยถามเข้ามาว่า ออมทองนั้นดีอย่างไรมีความเสี่ยงไหม มีกำไรแน่นอนรึป่าว แล้วออมทองกับฝากเงินธนาคารอันไหนดีกว่า แล้วราคาทองคำขึ้นๆลงๆแบบนี้จะขาดทุนไหม ผมต้องขอตอบทุกคนก็เลยว่า ทุกการลงทุนมีความเสี่ยงหมดแหละครับ อยู่ที่ว่าเสี่ยงมากเสี่ยงน้อย แต่วันนี้จะพาไปดูข้อดีจากการออมทองก่อนละกันครับ

1.การป้องกันอัตราเงินเฟ้อ

ทองคำนั้นเป็นสินทรัพย์ที่ค่อนข้างป้องกันอัตราเงินเฟ้าได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เนื่องจากปัจจุบันทองคำนั้นมีค่อนข้างจำกัด แต่หลายๆอุตสาหกรรมนั้นยังต้องใช้ทองคำ ซึ่งหลายท่านคาดการณืว่าอนาคตถึงสินค้าหรือค่าดำรงชีพจะแพงขึ้น ราคาทองคำก็จะขึ้นตามไปแน่นอน

2.มีเงินน้อยก็สามารถออมทองคำได้

การออมทองไม่จำเป็นต้องมีเงินมากมายเป็นหลักหมื่น ซึ่งทาง Gcap เองนั้นก็มีบริการออมทองซึ่งเริ่มต้นเพียงแค่ 1,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น

3.เป็นการกระจายความเสี่ยง

ซึ่งการออมทองสามารถป้องกันอัตราเงินเฟ้อได้ และมีสิทธิที่จะได้กำไรจากการออมทองอีกด้วย เช่น ในปีที่เราออมทองอยู่บาทละ 18,000เราออมไปซัก 5 ปี เกิดทองขึ้น เป็นบาทละ 25,000 เราก็จะได้กำไรจากการออมปีแรกๆ และเงินที่ได้กำไรจากการออมทองไม่ถูกเก็บภาษี

4.สามารถซื้อขายได้ง่าย

หากเราอยากหยุดที่จะออมทองหรือต้องการถอนทองออกมาเราสามารถเอาทองออกมาตามจำนวนที่เราออมไว้หรืออยากได้เป็นเงินสดก็แค่ขายคืนกลับไปตามราคาที่สมาคมการค้าทองคำประกาศ ณ เวลานั้นๆ

5.ไม่ต้องห่วงเรื่องเก็บรักษา

การเก็บรักษานั้นบริษัทที่เราออมทองไว้ จะเป็นคนเก็บรักษาทองคำให้ ซึ่งทำให้เราไม่จำเป็นต้องเช่าหรือซื้อตู้เซฟมาเพื่อเก็บรักษาทองคำให้เปลืองเงิน

ทางเรา Gcap เป็นบริษัทที่ทำการซื้อขายทองคำมาเป็นเวลายาวนานกว่า 60 ปี มีผู้เชี่ยวชาญที่จะคอยให้คำแนะนำท่านในการออมทองและการลงทุนทองคำ หากท่านสนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที www.gcap.co.th

ความรู้เบื้องต้นเรื่อง การซื้อขายทองออนไลน์ สำหรับมือใหม่

386975

ความรู้เบื้องต้นเรื่องการซื้อทองออนไลน์ ซื้อขายทองออนไลน์ สำหรับมือใหม่

หลายคนคงเคยจะได้ยินเรื่องการซื้อทองออนไลน์ ซื้อขายทองออนไลน์กันมาบ้างแล้ว สำหรับคงที่เคยการซื้อทองออนไลน์ ซื้อขายทองออนไลน์ ก็ต้องถือว่ามีประสบการณ์และรู้ระบบหรือวิธีที่ซื้อขายกัน แต่สำหรับมือใหม่ก็คงจะมึนเล็กน้อยว่าจะเริ่มต้นแบบไหนดี วันนี้จะมาแนะนำความรู้เบื้องต้นให้ทราบกันค่ะ

1.มีความพร้อมในการซื้อทองออนไลน์ ซื้อขายทองออนไลน์

เริ่มแรกเลยก็ต้องสำรวจความพร้อมในการซื้อทองออนไลน์ ซื้อขายทองออนไลน์ ของตนเองกันก่อนนะคะ  โดยดูจากความพร้อมในด้านการเงินค่ะ ว่าคุณมีเงินเพียงพอสำหรับการซื้อทองออนไลน์ ซื้อขายทองออนไลน์ หรือยังถ้ามีความพร้อมแล้วก็ถือว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติที่เหมาะสม โดยความพร้อมทางการเงินต้องเป็นเงินเย็นนะคะ ไม่แนะนำให้ไปกู้มาค่ะ

2.ศึกษาระบบการซื้อทองออนไลน์ ซื้อขายทองออนไลน์

ขั้นตอนต่อไปเมื่อมีความพร้อมทางด้านการเงินแล้ว คุณก็จะต้องศึกษาระบบการซื้อทองออนไลน์ ซื้อขายทองออนไลน์ จากเว็บไซต์ค่ะ ซึ่งก็ไม่ยากเลยนะคะ ขั้นตอนก็ไม่ซับซ้อน ขอเพียงคุณสละเวลาทำความเข้าใจในครั้งแรก ครั้งต่อไปก็ง่ายแล้วค่ะ ลองเลือกเว็บไซต์ในการศึกษาระบบก่อนนะคะ

3.ศึกษาระบบการชำระเงินศึกษาระบบการซื้อทองออนไลน์ ซื้อขายทองออนไลน์

ระบบการชำระเงินก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดการศึกษาระบบการซื้อทองออนไลน์ ซื้อขายทองออนไลน์  คุณจึงต้องศึกษาระบบการชำระเงินของแต่ละเว็บไซต์ก่อน เพื่อที่คุณจะได้วางแผนการชำระเงินได้อย่างถูกต้อง ซึ่งขั้นตอนนี้ก็ไม่ยุ่งยากอะไร ขอให้คุณรู้เท่านั้นว่าแต่ละแห่งมีระบบชำระเงินแบบไหน คุณก็จะได้ไปดำเนินการให้ตรงกันค่ะ

สำหรับท่านใดที่สนใจเรื่องการซื้อขายทองคำแท่ง และต้องการรับคำปรึกษาสามารถมาขอคำปรึกษาได้ที่ บริษัท จีแคป จำกัด หรือสามารถเข้าไปอ่านข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อขายทองคำแท่งได้ที่ http://www.gcap.co.th/gcapgold/product_tradeonline.php

 

 

 

 

จุดเด่นของการซื้อขายทองออนไลน์ ของจีแคป

386975

การซื้อขายทองคำแท่ง หากเป็นสมัยก่อน หากคุณต้องการที่จะทำการซื้อขายทองคำแท่งแล้วละก็ คุณจะต้องเดินทางไปที่ห้างทองนั้นๆ เพื่อทำการซื้อขายทองคำแท่ง แต่ในปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้คุณสามารถที่จะซื้อขายทองออนไลน์ได้แล้ว และยังสามารถที่จะเช็คข่าวสารต่างๆ เกี่ยวกับทองคำแท่ง ได้อย่างทันที ทุกที่ทุกเวลา

ทั้งนี้ก็มีหลายๆบริษัทที่ได้ให้บริการซื้อขายทองออนไลน์ให้คุณได้เลือกใช้บริการ ทั้งนี้เราจึงมาแนะนำการให้บริการซื้อขายทองออนไลน์ ของบริษัท จีแคป ว่ามีจุดเด่นอย่างไร ท่านจึงควรที่จะตัดสินใจมาใช้บริการกับที่จีแคป

จุดเด่นของบริการซื้อขายทองคำแท่งออนไลน์ จากจีแคป คือ

  • มีความสะดวก รวดเร็ว คล่องตัว
  • ท่านมั่นใจได้อย่างแน่นอนว่า มีความปลอดภัย ด้วยการใช้รหัสผ่าน 2 ชั้น
  • สามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ถึงเที่ยงคืนกันเลย
  • สามารถตรวจสอบประวัติรายการซื้อขายได้ถูกต้อง รวดเร็ว และมีความแม่นยำมากขึ้น
  • ฟรี ค่าสมัครสมาชิก และไม่มีค่าทำเนียมในการซื้อขายทองคำ
  • ได้รับทองคำจริงคืนจากระบบได้ในทุกวันทำการ
  • สามารถเลือกชำระเงิน/ส่งมอบทองคำ ได้ทันที หรือจะเลือกชำระภายใน 2 วันทำการของธนาคารพาณิชย์

นอกจากนี้ที่บริษัทจีแคป ยังมีแอพพลิเคชั่น ที่คุณสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีแล้ววันนี้ เพื่อที่จะใช้ในการอัพเดทข่าวสารทองคำแท่ง และซื้อขายทองคำแท่งออนไลน์ได้

สำหรับท่านใดที่สนใจสามารถที่จะเข้าไปเพื่อขอรับคำปรึกษาได้ฟรีที่บริษัทจีแคป จำกัด ซึ่งที่นี่จะมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนทองคำคอยให้คำปรึกษาคุณอีกด้วย และยังมีการจัดสัมมนา ฟรี ทุกๆเดือน เพื่อให้ความรู้ในด้านการลงทุนทองทองคำ

สำหรับท่านใดที่สนใจในการซื้อขายทองคำแท่ง หรือลงทุนทองคำ สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ก่อนที่ http://gcap.co.th/gcapgold/product_tradeonline.php

เรียนรู้ปัญหาการซื้อขายทองออนไลน์

ตามกฎที่ถูกต้องของการซื้อขายทองออนไลน์ คือ ผู้ซื้อก็ต้องมีการจ่ายเงินกันเต็มจำนวนจริงๆ ส่วนผู้ขายก็ต้องมีการส่งมอบทองคำกันจริงๆ ซึ่งเป็นวิธีการซื้อขายทองออนไลน์ ผ่านทางอินเตอร์เน็ตเท่านั้น ก็เหมือนการซื้อขายสินค้าอื่นๆบนโลกออนไลน์ทั่วไป หากแต่ถ้าที่ใดที่มีการให้ซื้อให้ขายโดยไม่มีการจ่ายค่าสินค้ากันเต็มจำนวน หรือมีการส่งมอบทองคำกันจริงๆ แล้ว จะมีการใช้วิธีรับจ่ายกันแค่ส่วนต่างกำไรหรือขาดทุน หรือที่เรียกว่า Cash Net Settlement เท่านั้น ก็ถือว่าไม่เข้าข่ายธุรกิจออนไลน์ทั่วไปได้ ซึ่งอาจผิด พ.ร.บ. และอาจถูก ก.ล.ต.ฟ้องร้องได้เช่นกัน

ตรวจสอบการซื้อขายทองออนไลน์ก่อนลงทุน
การที่จะเลือกลงทุนในช่องทางใหม่ๆไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายทองออนไลน์นั้น ควรจะศึกษาให้ดี และควรสอบถามจากคนที่อยู่ในธุรกิจมานาน ซึ่งน่าจะช่วยคัดกรองได้ระดับหนึ่ง ตัวอย่างเช่นจะลงทุนในโกลด์ฟิวเจอร์ส คุณสามารถตรวจสอบกับทาง ก.ล.ต. ว่าโบรกเกอร์ไหนเป็นสมาชิกของตลาดอนุพันธ์อย่างถูกต้อง  และโบรกเกอร์ไหนอยู่ในธุรกิจมานาน ซึ่งทุนจดทะเบียนของบริษัทนั้นๆเป็นอย่างไร ส่วนการซื้อขายทองออนไลน์ก็เช่นกัน ควรจะเช็คทุนจดทะเบียนที่มีการชำระแล้วของบริษัทนั้นๆและควรตรวจสอบว่าใครเป็นเจ้าของธุรกิจ และมีการดำเนินทำธุรกิจในการซื้อขายทองออนไลน์ หรือทองคำมานานแค่ไหน

การซื้อขายทองออนไลน์ ยังมีรายละเอียดอีกมากมายที่นักลงทุนควรรู้ ทั้งข้อดีและข้อเสีย การหาประสบการณ์ตรงของผู้ประกอบการร้านทองคำรายอื่น  รวมถึงการหาข้อมูลเกี่ยวกับซื้อขายทองออนไลน์ที่ต่างประเทศว่าทำได้จริงหรือไม่ ซึ่งควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

สำหรับท่านใดที่สนใจการซื้อขายทองคำออนไลน์ หรือการลงทุนทองคำ สามารถเข้ามาขอรับคำปรึกษาได้ฟรีที่ บริษัท จีแคป จำกัด หรือหากต้องการอ่านข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อขายทองคำออนไลน์ สามารถคลิกเข้าไปดูได้ที่ http://www.gcap.co.th/gcapgold/product_tradeonline.php